สื่อสารอย่างไรในภาวะวิกฤต
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
วิกฤติ คือ คำวิเศษณ์ -
อยู่ในขั้นล่อแหลมต่ออันตราย เช่น การเมืองอยู่ในขั้นวิกฤติ,
มักใช้แก่เวลาหรือเหตุการณ์ เป็น วิกฤติกาล หรือ วิกฤติการณ์,
อยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ เช่น มุมวิกฤติ จุดวิกฤติ. (ส.; ป. วิกต, วิกติ).อ้างอิงจากพจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒
ปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับคำว่า
“วิกฤต” มี ดังนี้
๑
วิกฤติ คือ คำที่ให้ความหมายในเชิงลบ ส่วนใหญ่มักใช้กับคนหรือภัยธรรมชาติต่างๆ
เช่น น้ำท่วมกรุงเทพในครั้งนี้เข้าขั้นวิกฤต , สุขภาพจิตในภาวะวิกฤต เป็นต้น
๒
ภาวะวิกฤต มักจะมีผลกระทบกับคนจำนวนมาก เช่น ภัยจากแผ่นดินไหว , พายุไต้ฝุ่น
เป็นต้น
๓
ในภาวะวิกฤต มักต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็ว ถูกต้อง
ชัดเจนและต้องการภูมิปัญญาในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้สถานการณ์เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยข้างต้นนี้ มักต้องอาศัยการสื่อสารเป็นสำคัญ
และต้องเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพด้วย เพราะถ้าข้อมูลดี มีความถูกต้อง แต่ถ้าคนสื่อสารสื่อไม่ดี
สื่อผิดพลาด ก็จะทำให้ผู้รับข่าวสารเกิดความคลาดเคลื่อน
อีกทั้งทำให้การตัดสินใจหรือการใช้ภูมิปัญญาในการแก้ไขปัญหาเกิดความผิดพลาดด้วย
ฉะนั้นการสื่อสารจึงเป็นหัวใจที่มีความสำคัญมากๆในการฝ่าภาวะวิกฤตต่างๆ
ไม่ว่าเรื่องของ ภัยธรรมชาติ ภัยทางด้านการก่อการร้าย
ภัยทางด้านโรคติดต่อร้ายแรงต่างๆ
สำหรับเมื่อเกิดภาวะวิกฤตที่ร้ายแรงไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
ภัยธรรมชาติ โรคติดต่อร้ายแรง การก่อการร้าย ฯลฯ รัฐบาลคงหนีความรับผิดชอบไปไม่ได้
เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในแต่ละประเทศในการที่จะต้องแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ
ด้านการสื่อสารในภาวะวิกฤต
รัฐบาลแต่ละประเทศมักใช้การสื่อสารแบบรวดเร็ว กล่าวคือ เป็นการสื่อสารแบบบนลงล่าง
เช่น คำสั่ง , แถลงการณ์ ฯลฯ
ซึ่งถ้ารัฐบาลตัดสินใจถูกก็สามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว
แต่ในทางกลับกันหากตัดสินใจผิดพลาด ก็อาจจะเกิดผลกระทบและปัญหาก็มักจะบานปลายได้
ดังนั้นการสื่อสารที่ดี การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ จึงต้องการการสื่อสารแบบ 2 ทาง กล่าวคือ จากบนลงล่าง(รัฐบาลสู่ประชาชน) และ
จากล่างขึ้นบน(จากประชาชนสู่รัฐบาล) ซึ่งหากรัฐบาลประเทศไหนเปิดโอกาสให้สื่อสาร 2
ทางได้ ปัญหาก็จะแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพและแก้ไขปัญหาได้ถูกจุดมากกว่า
แต่ข้อเสียก็คือ เกิดความล่าช้าในการปฏิบัตินั้นเอง
อีกประเด็นที่สำคัญคือ
ในภาวะวิกฤติ รัฐบาลมักใช้การสื่อสารแบบดั่งเดิมกล่าวคือ
ให้ประชาชนรู้ข้อมูลให้น้อยๆ เพราะถ้ารู้ข้อมูลมาก ประชาชนก็จะเกิดความกลัว
เกิดความวุ่นวาย อีกทั้งกระทบต่อคะแนนเสียงในทางการเมืองอีกด้วย กล่าวคือ
ฝ่ายตรงกันข้ามทางการเมืองและประชาชนจะต่อว่ารัฐบาลว่า ปัญหาแค่นี้แก้ไขไม่ได้หรือ
ดังจะเห็นจากรัฐบาลหลายๆประเทศ มักปิดข่าวหรือไม่ให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน อีกทั้งยังแสดงความมั่นใจเพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหา
ทั้งๆที่ รัฐบาลรู้ดีว่า แก้ไขปัญหาไม่ได้ ตัวอย่าง น้ำท่วมในหลายประเทศ
รัฐบาลมักให้ข่าวว่า รับมือได้ แต่ก็ไม่สามารถรับมือกับน้ำท่วมได้ดังที่พูดไว้
ส่วนสื่อมีความเปิดกว้างและควบคุมได้ยากกว่าในอดีต
ซึ่งปัจจุบันเรามีระบบอินเตอร์เน็ต มีการใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook , Twitter , Youtube , Google ฯลฯ อีกทั้งยังมี
วิทยุชุมชน ทีวีดาวเทียม ต่างๆ มากมาย ซึ่งทำให้รัฐบาลควบคุมได้ยากมากกว่าในอดีต
อีกทั้ง สื่อต่างๆทำให้ข้อมูลแพร่เผยไปอย่างรวดเร็ว แต่อาจมีข้อเสียเช่นกัน กล่าวคือ
ข้อมูลที่ส่งไปอาจเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด
ข้อมูลที่เป็นเท็จก็ได้
อีกทั้งเทคโนโลยี
มีความทันสมัยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์
สินค้าตระกูล I โดยเฉพาะโทรศัพท์ในยุคปัจจุบัน
สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ส่งข่าว เล่นเกมส์ ชำระเงิน โอนเงิน
ดูทีวี ฯลฯ กล่าวคือ หากเรามีโทรศัพท์ที่มีเทคโนโลยีที่สูง เราสามารถส่งข่าว
หรือทำสิ่งต่างๆที่รวดเร็วได้เมื่อเกิดภาวะวิกฤต
ท้ายนี้
ในการแก้ไขปัญหาหรือการสื่อสารอย่างไรในภาวะวิกฤต
เราคงต้องอาศัยความร่วมมือกันจากทุกฝ่าย อีกทั้ง ต้องมีการใช้อุปกรณ์
เครื่องมือที่ทันสมัย
เพื่อการให้เกิดการสื่อสารที่มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น